“อนุทิน” เรียกประชุมผู้ว่าฯ 17 จังหวัดภาคเหนือ เร่งเตรียมพร้อมแผนรับมือสถานการณ์อุทกภัย ย้ำต้องมีแผนเผชิญเหตุ บริหารจัดการทุกระดับสื่อสารข้อมูลและพร้อมช่วยเหลือประชาชนทันที
เชียงใหม่ 24 พ.ค. – ที่โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซต์ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานประชุมเตรียมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด 16 จังหวัดภาคเหนือ (ยกเว้นจังหวัดเชียงรายที่กำลังบัญชาการแก้ปุญหาอุทกภัย อ.แม่สาย) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
โดย นายอนุทิน ย้ำว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือทุกจังหวัดได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก และอุทกภัย ทั้ง “ก่อนเกิดเหตุ” ที่ต้องเตรียมทรัพยากรในการป้องกัน การกู้ชีพกู้ภัย เครื่องสูบน้ำ เรือท้องแบน หรือเจ็ทสกีและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานเอาไว้ล่วงหน้า รวมไปถึงการขุดลอกแม่น้ำ คูคลอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่มักเกิดสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำซาก
“ขณะเกิดเหตุ” ต้องเตรียมพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยต้องเป็นพื้นที่ที่สะอาด ไม่แออัด ถูกสุขอนามัยและเหมาะสมสำหรับอยู่อาศัย รวมทั้งจะต้องเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานส่วนหน้าตามแผนเผชิญเหตุและหากต้องประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ตามจุดต่าง ๆ ให้ทำได้ทันที เพื่อใช้งบประมาณมาช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
และ “หลังเกิดเหตุ” ซึ่งจะต้องเร่งสำรวจเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยต้องใช้กลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามาร่วมรับมือกับภัยพิบัติและช่วยดูแลพี่น้องประชาชน ด้วยการทำความเข้าใจกับ อปท. ทุกแห่ง ได้มีการใช้งบประมาณให้ถูกต้องตามระเบียบเพื่อเยียวยาและดูแลช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว มากไปกว่านั้นจะต้องมีการเร่งฟื้นฟูพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทางการเกษตรกรรม ตลอดจนสภาพจิตใจของประชาชนควบคู่ไปด้วย
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนได้รับรู้รับทราบ ทั้งในประเด็นของการแจ้งเตือนผ่านระบบ Cell Broadcast การแจ้งข้อมูลผ่านเครือข่ายวิทยุ ช่องทางออนไลน์ สื่อมวลชนในพื้นที่ เพื่อสื่อสารไปยังประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ทันเวลาและสามารถเตรียมรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีด้วย
ส่วนเหตุการณ์อุทกภัยที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายนั้นในขณะนี้มีพื้นที่ถนนบางส่วนได้รับความเสียหายและทุกหน่วยในพื้นที่ได้ใช้บิ๊กแบ็คเข้าควบคุมสถานการณ์แล้ว หลังเกิดฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลัน เมื่อช่วงเวลา 02.00 น. วันนี้ ซึ่งมวลน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมชุมชนริมแม่น้ำสาย ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์ร่วมกับหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงรายและนายอำเภอแม่สายรายงานให้ทราบเป็นระยะๆ โดยสถานการณ์พื้นที่ อ.แม่สาย ในขณะนี้นั้น มีพื้นที่ถนนบางส่วนได้รับความเสียหาย แต่หน่วยงานทหารและฝ่ายปกครองได้ระดมบิ๊กแบ็คเข้าควบคุมสถานการณ์แล้ว แต่ด้วยขณะนี้กำลังทหารกรมการทหารช่างอยู่ระหว่างการก่อสร้างคันระบายน้ำพื้นที่ชุมชนอำเภอแม่สาย ที่จะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 68 นี้ จึงทำให้การระบายน้ำยังทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่เมื่อคันระบายน้ำที่กำลังก่อสร้างแล้วจะทำให้การระบายน้ำในพื้นที่อำเภอแม่สายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ในขณะนี้พื้นที่จังหวัดเชียงรายรวมถึงอีก 51 จังหวัดทั่วประเทศ จะมีฝนตกต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ ตนจึงได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่มีปริมาณน้ำฝนจำนวนมาก ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดสถานการณ์ ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน ทั้งเรื่องศูนย์พักพิงที่ถูกสุขลักษณะ พร้อมประสานผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและทุกภาคส่วนได้เร่งให้ความช่วยเหลือ ซึ่งในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็สามารถใช้อำนาจตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ซึ่งตนได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นที่ปรึกษาและผู้สนับสนุนการทำงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการใช้ดุลยพินิจเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังตามกฎหมายและหากสถานการณ์รุนแรงก็จะต้องประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบกฎหมาย