ทุกภาคส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมขับเคลื่อนผลักดันการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเชียงใหม่สู่การเป็นมรดกโลกแห่งแรกของภาคเหนือตอนบน
จังหวัดเชียงใหม่ประกาศความพร้อมทุกภาคส่วนร่วมมือผลักดันแหล่งมรดกวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่เข้าสู่บัญชีรายชื่อมรดกโลก หวังยกระดับเมืองหลวงแห่งอาณาจักรล้านนาอันเก่าแก่กว่า 730 ปี สู่การเป็นเมืองมรดกโลกแห่งแรกของภาคเหนือตอนบน พร้อมเดินหน้าอนุรักษ์คุณค่าทางประวัติศาสตร์ ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
สำหรับแหล่งมรดกวัฒนธรรม 8 แห่งที่จะได้รับการเสนอชื่อ ได้แก่ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร, วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร, วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร, วัดเชียงมั่น, วัดสวนดอกพระอารามหลวง, วัดเจ็ดยอดพระอารามหลวง, วัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม รวมถึงแนวคูเมือง กำแพงเมือง แจ่ง และประตูเมืองเชียงใหม่
นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.เชียงใหม่) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยหลักในการสนับสนุนการจัดทำเอกสารเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก (Nomination Dossier) ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดทำร่างเอกสารฉบับสมบูรณ์เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2568 ก่อนจัดส่งให้ศูนย์มรดกโลกในเดือนมกราคม 2569 เพื่อนำไปสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลกในปี 2570
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเร่งรัดดำเนินการขับเคลื่อนนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเชียงใหม่เป็นมรดกโลก เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งประธานและรองประธานของคณะทำงานเร่งรัดฯ นี้ ได้สามารถขับเคลื่อนผลักดันทั้งอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพและอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทจนได้เป็นมรดกโลกในปี 2566 และ 2567 เป็นผลสำเร็จมาแล้ว ซึ่งในปัจจุบันคณะทำงานเร่งรัดฯอยู่ในกระบวนการเตรียมจัดทำเอกสารนำเสนอฉบับสมบูรณ์ (Nomination Dossier) ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่มาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทางจังหวัดพร้อมสนับสนุน ทุกภาคส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ ในการผลักดันเมืองเชียงใหม่สู่มรดกโลกต่อไป
นายศุภฤกษ์ ภาวิไล คณะทำงานและเลขานุการ คณะทำงานเร่งรัดดำเนินการขับเคลื่อนนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเชียงใหม่เป็นมรดกโลก ผู้ก่อตั้งกลุ่มขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่มรดกโลก กล่าวว่า หากเมืองเชียงใหม่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จะเกิดประโยชน์หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น
- ด้านการอนุรักษ์และปกป้องโบราณสถาน: เมืองจะได้รับการสนับสนุนจากองค์กรทั้งในและต่างประเทศในการฟื้นฟู บูรณะ และดูแลโบราณสถานในกรณีภัยพิบัติ
- ด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว: เชียงใหม่จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดโดยรอบ
ด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบคมนาคม: มีแผนพัฒนาอย่างเป็นระบบเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม ปลอดภัย และยั่งยืน - ด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน: ส่งเสริมบทบาทของประชาชนท้องถิ่นในการอนุรักษ์ ดูแล และพัฒนาแหล่งมรดกร่วมกัน เกิดการมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง
โอกาสนี้ ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 14 ฝ่าย ว่าด้วยการบริหารจัดการอนุสรณ์สถานแหล่งต่างๆ และภูมิทัศน์ วัฒนธรรมของเชียงใหม่นครหลวงของล้านนา โดยมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ เจ้าอาวาสและผู้แทนเจ้าอาวาสจาก 7 วัดข้างต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงนาม MOU ดังกล่าว
