เชียงใหม่ระทึกเตือนน้ำปิงขยับสูง New high ปีนี้อีกรอบจ่อล้นตลิ่ง P1 ทะลุ 4 เมตร ให้ชาวบ้านจุดลุ่มต่ำเก็บของไว้ที่สูง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือหลังน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องคาดเที่ยงคืนทะลุ 4 ม.อาจล้นท่วมจุดลุ่มต่ำ แจ้งชาวบ้านขนของไว้ที่สูงไม่ประมาท
เชียงใหม่ 27 ก.ย.- ช่วงค่ำที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงานเพื่อติดตามประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยเขตเมืองจากระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัดโดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตงมีปริมาณฝน 80-90 มม. ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ซึ่งทางชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.20 เมตร แต่เพื่อความไม่ประมาทโดยเฉพาะจุดที่ลุ่มต่ำให้ประชาชนเก็บข้าวของไว้ที่สูงไส้ก่อน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา อบจ.เชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลตำบลป่าแดด เทศบาลตำบลหนองหอยและเทศบาลตำบลท่าวังตาล ได้เร่งบรรจุกระสอบทรายแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับทำพนังกั้นน้ำบริเวณบ้านเรือนและร้านค้าแล้ว ส่วนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้เตรียมความพร้อมสถานที่จอดรถไว้รองรับพี่น้องประชาชน จำนวน 10,500 คัน และจัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวไว้ จำนวน 44 แห่ง ที่สามารถรองรับประชาชนได้ 116,504 คน ด้วยเช่นกัน หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นในคืนวันนี้

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้วิทยุด่วนเน้นย้ำให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำโดยด่วนเพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านได้สะดวก ซึ่งหากเกินกำลังของ อปท. ในพื้นที่ขอให้แจ้งมายังจังหวัด จะได้สั่งการให้หน่วยงานระดับจังหวัดที่มีเครื่องจักรกลขนาดใหญ่เร่งดำเนินการทันที แต่หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจำเป็นต้องมีการอพยพประชาชน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยของบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมกับอำนวยความสะดวกเส้นทางจราจรในพื้นที่ด้วย.






