ตร.ภ.5 โชว์ผลงานกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าเปิดขายโจ๋งครึ่มผ่านออนไลน์ส่งถึงบ้าน จับล็อตนี้เบาะๆกว่า 3.6 หมื่นชิ้น พร้อมผู้ต้องหา 2 ราย มูลค่าร่วม 7 ล้านบาท

เชียงใหม่ 28 ต.ค.- ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ มีการแถลงข่าวผลการปฏิบัติการบุกค้นรังจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ เครือข่าย “VAPEHAUS” 3 จุด กลางเมืองเชียงใหม่ รวบ 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้า 36,555 ชิ้น มูลค่ากว่า 6.6 ล้านบาท เตรียมขยายผลจับนายทุนต่อ โดยมี พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร.เป็นประธาน ตามนโยบายของรัฐบาลโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ยกระดับเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นวาระแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดให้ดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้นในทุกมิติทันที ซึ่งในกรณีดังกล่าว ทางศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) ร่วมกับ บก.สส.ภ.5 ทำการสืบสวนจนทราบว่า มีกลุ่มบุคคลที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ ชื่อ “vapehaus URL: https://vapehaus.net”
โดยมีรูปแบบสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ แล้วจัดส่งทางขนส่งให้ถึงบ้าน จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว มีที่ตั้งของการกระทำความผิดจำนวน 3 จุด ประกอบด้วย ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ 1 จุด พื้นที่ อ.หางดง จำนวน 2 จุด จึงได้รวบรวมข้อมูลการสืบสวนแล้วขออนุมัติศาลเพื่อทำการตรวจค้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ต.ค.2567 ได้เข้าทำการตรวจค้นสถานที่ซึ่งจัดให้
เป็นที่ซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าและสถานที่แบ่งบรรจุเพื่อส่งทางไปรษณีย์ จำนวน 3 จุด โดยเป็นการเปิดปฏิบัติการตรวจค้น สามารถจับกุมพร้อมกันดังนี้
จุดที่ 1 บริเวณหมู่บ้านกุลพันธ์วิลล์ 3 ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ พบของกลางบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 546 ชิ้น จุดที่ 2 บริเวณหมู่บ้านกาญจน์กนกวิลล์ 10 ต.สันผักหวาน อ.หางดง พบของกลางบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 3,828 ชิ้น และจุดที่ 3 บริเวณหมู่บ้านสมหวัง ต.สันผักหวาน อ.หางดง พบของกลางบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 33,181 ชิ้น รวมพลบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด 36,555 ชิ้น มูลค่าประมาณ 6,699,000 บาท ร่วมของกลางประกอบการกระทำผิดมี คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ จำนวน 2 ชุด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง กล่องกระดาษสำหรับส่งพัสดุ กว่า 2,000 กล่องและเร้าเตอร์ไวไฟ จำนวน 1 ตัว
จากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายคือ นางสาวกบิษฎา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ที่อยู่ หมู่ 10 ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และนางสาวกฤษณา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ที่อยู่ หมู่ 1 ต.ยุหว่า อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ฐานความผิด “ร่วมกันขายบุหรี่ไฟฟ้าโดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 และร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ทั้งคู่ได้ให้การว่าทำหน้าที่เป็นพนักงานบรรจุบุหรี่ไฟฟ้าและจัดส่งสินค้าทางไปรษณีย์ให้ลูกค้า โดยอาศัยช่วงเวลากลางคืนในการทำงานและจัดส่งสินค้าในช่วงเช้า โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน ๆ ละ 16,000 บาท นอกจากนี้ยังพบว่า มีการติดต่อสั่งซื้อสินค้าทางไลน์แอด ซึ่งมี 3 ไลน์แอด มีสมาชิกรวมกว่า 18,000 คน จากการตรวจสอบระบบการซื้อขายพบมีเงินหมุนเวียนประมาณ 30 ล้านบาท ต่อปี ทางชุดจับกุมอยู่ระหว่างขยายผลเส้นทางทางการเงิน ที่มาของบุหรี่ไฟฟ้า และผู้รับผลประโยชน์ตลอดถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิดต่อไป.













